หนึ่ง
มุมมองของแอสเทลล่า
“ผลตรวจเป็นบวกค่ะ ท่านลูน่าแอสเทลล่า ท่านตั้งครรภ์แล้ว!” เสียงตื่นเต้นของพยาบาลดังก้องไปทั่วหอผู้ป่วย
ในวินาทีนั้น เหล่าโอเมก้าและองครักษ์ผู้ติดตามที่มาส่งเราถึงโรงพยาบาลต่างโห่ร้องยินดีกันถ้วนหน้า ทุกคนโผเข้ากอดกันกระโดดโลดเต้น ไม่สามารถเก็บงำความสุขเอาไว้ได้
ลูน่าของพวกเขา คนที่ทุกคนคิดว่าจะไม่มีวันมีทายาทได้เพราะเป็นหมันมาตลอดห้าปี ในที่สุดก็ตั้งครรภ์
อัลฟ่าเลียม สามีของฉันซึ่งนั่งอยู่บนเตียงข้างกายฉันเงยหน้าขึ้นมาด้วยแววตาเย็นชา
“ตรวจซ้ำอีกครั้ง”
พยาบาลที่ประกาศข่าวดีขมวดคิ้วก่อนจะโค้งคำนับ “ท่านอัลฟ่าคะ การตรวจทำอย่างรอบคอบที่สุดแล้วโดยแพทย์ที่ดีที่สุดของห้องแล็บประจำฝูง ดิฉันรับรอง...”
“ต้องให้ข้าพูดซ้ำรึไง” น้ำเสียงของเขาดังกึกก้องไปทั่วห้อง แม้แต่ฉันเองยังสั่นสะท้าน รู้สึกเย็นเยียบไปถึงสันหลัง “ตรวจเดี๋ยวนี้ ข้าจะไม่ยอมตั้งความหวังอีกครั้งเพียงเพื่อให้มันพังทลายลงเพราะพวกเจ้าทำงานไม่ดีพอ และผลต้องออกมาเหมือนเดิม มิฉะนั้น สิ่งที่เจ้าต้องกังวลจะไม่ได้มีแค่เรื่องงาน ข้าจะสั่งตัดหัวเจ้าทันที!”
หัวหน้าพยาบาลตัวสั่นสะท้านจากแรงกดดันของออราที่เขาแผ่ออกมา ขณะที่เธอโค้งคำนับ เหงื่อเม็ดเล็กๆ ก็ผุดขึ้นที่หว่างคิ้ว “ค่ะ ท่านอัลฟ่า”
บรรยากาศที่เคยเปี่ยมสุขพลันเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ทุกคนเงียบกริบและเคร่งเครียด
พยาบาลจากไปแล้ว และฉันก็นั่งอยู่ตรงนั้น รู้สึกใจหายวาบไปถึงท้องน้อย ทิ้งรสขมปร่าไว้ในปากและความรู้สึกร้อนผ่าวที่ขอบตา มันคือน้ำตาของฉันเอง แต่ฉันไม่กล้าปล่อยให้มันรินไหลออกมาแม้เพียงหยดเดียว ไม่ใช่ตอนที่อยู่ข้างๆ สามี
ในฐานะคนที่อีกไม่กี่วินาทีก็จะได้รับการยืนยันว่าตั้งครรภ์จริงๆ หลังจากรอคอยมานานถึงห้าปี ฉันกลับดูไม่ยินดีสักเท่าไร
มือข้างหนึ่งวางลงบนเข่าของฉันอย่างแผ่วเบา และแม้จะรู้ว่าเป็นมือของใคร ฉันยังรู้สึกขนลุกซู่ใต้ฝ่ามือของเขา ฉันรีบปาดข้างแก้ม หวังว่าเขาจะไม่เห็นน้ำตาในดวงตาของฉันพลางฝืนยิ้มให้เขา
อัลฟ่าเลียมกำลังมองฉันด้วยดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง ความรัก และความห่วงใยอย่างแท้จริง ชายผู้นี้คืออัลฟ่าแห่งฝูงที่ใหญ่ที่สุดฝูงหนึ่งในดินแดนมนุษย์หมาป่า ฝูงไรน์สโตน และเขาหล่อเหลามากพอๆ กับที่เขาใจดี ผู้หญิงมากมายคงโชคดีหากได้เขาเป็นคู่แท้ แต่ก่อนที่ฉันจะเกิดเสียอีก ฉันก็ถูกหมั้นหมายไว้กับเขาแล้ว และตั้งแต่แรกเกิด โลกทั้งใบก็รับรู้ว่าบุตรสาวของชาแมนหญิงคนสุดท้ายแห่งฝูงไรน์สโตนถูกกำหนดให้เป็นคู่แท้ในอนาคตและลูน่าคนต่อไปของฝูง
ดังนั้น เมื่ออายุสิบแปดปี ฉันจึงได้แต่งงานกับเขา เขาดูแลฉันอย่างดี ดียิ่งกว่าที่เขาเคยดูแลฉันมาตลอดตั้งแต่เรายังเด็ก ตอนนั้นเราตัวติดกันแทบไม่เคยห่าง เขารักและห่วงใยฉันอย่างแท้จริง และแม้เวลาจะผ่านไปห้าปีที่ฉันไม่สามารถมีทายาทได้ ความรักที่เขามีให้ฉันก็ไม่เคยสั่นคลอน เขายังคงเฝ้าหวังปาฏิหาริย์จากเทพีจันทราต่อไป
แม้แต่ตอนที่เหล่าผู้อาวุโสเรียกร้องให้เขามีคู่ครองอีกคน เขาก็ปฏิเสธอย่างแข็งขัน
มีอยู่ครั้งหนึ่ง ด้วยความกลัวว่าเราอาจจะตายไปโดยไม่มีผู้สืบทอด ฉันเองก็เห็นด้วยกับความคิดที่ให้เขามีคู่คนที่สอง แต่เขาก็ไม่ยอม เขาเป็นคนดื้อรั้น แต่มันก็เห็นได้ชัดว่าเขารักฉัน เขาไม่อาจทนแม้แต่จะแบ่งปันความรักที่มีให้ฉันกับคนอื่น เขาเป็นคนรักที่ทุ่มเท และฉันก็มีความสุขที่มีสามีเช่นเขา
แต่ฉันกลับไม่รู้สึกว่าตัวเองโชคดี... ฉันรักเขา แต่ไม่ได้รักเขามากเท่าที่เขารักฉัน หลายปีผ่านไปแล้ว และฉันก็ไม่เคยรวบรวมความกล้าที่จะบอกเขาได้เลย เพราะไม่อาจทนเห็นหัวใจเขาแหลกสลายเมื่อได้รู้ข่าวนี้
“รอเดี๋ยวนะที่รัก ผลตรวจที่ยืนยันแล้วจะออกมาในอีกไม่กี่นาทีนี้ ยังลุกไหวไหม ให้พวกสาวใช้ไปหาอะไรมาให้หรือเปล่า หิวไหม”
ฉันฝืนยิ้มบางๆ ก่อนจะวางมือเล็กๆ ของฉันลงบนมือของเขาแล้วบีบเบาๆ
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ เลียม”
เขาโน้มตัวเข้ามาแล้วเอาหน้าผากมาจรดกับหน้าผากของฉัน ฉันสัมผัสได้ถึงลมหายใจหนักๆ ของเขาที่รินรดริมฝีปาก ก่อนที่เขาจะช่วงชิงริมฝีปากของฉันไปจุมพิตอย่างหิวกระหาย ฉันจูบตอบ แต่เขาก็ถอนริมฝีปากออกไปเร็วกว่าปกติ ฉันมองเห็นทั้งความปรารถนา ความกลัว และความต้องการในดวงตาสีฟ้าของเขาขณะที่เขาสบตาฉัน
“อย่าทำให้ฉันกลัวแบบนี้อีกนะ แอสเตลล่า ชั่วขณะหนึ่ง ฉันนึกว่าฉันเสียเธอไปแล้ว”
“เลียม มันไม่มีอะไรเลยค่ะ ฉันแค่เหนื่อยนิดหน่อยเท่านั้นเอง แล้วพวกสาวใช้ก็...”
“ลองคิดดูสิว่าการที่ต้องออกจากที่ประชุมเพราะมีคนโทรมาบอกว่าภรรยาสุดที่รักของฉันหมดสติไปจนต้องรีบพามาส่งโรงพยาบาลของฝูงมันเป็นยังไง ฉันกลัวจนหัวใจแทบหยุดเต้น ฉันดีใจที่เธอไม่เป็นไร”
“ท่านลูน่าจะต้องให้กำเนิดเด็กผู้หญิงที่งดงามเหมือนท่านแน่ๆ! ข้ามั่นใจจริงๆ ว่าลูกของท่านต้องเป็นเด็กผู้หญิง” เสียงของโอเมก้าตนหนึ่งดึงความสนใจของเราไปยังการโต้เถียงเล็กๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาที่ด้านข้างของห้องพักผู้ป่วยขณะที่พวกเราทุกคนกำลังรอผลตรวจใหม่
“เจ้าแน่ใจได้อย่างไร ท่านต้องการผู้สืบทอดนะ เพราะฉะนั้นพวกท่านต้องได้รับพรเป็นเด็กผู้ชายสิ” ยามคนหนึ่งเถียงอย่างดื้อรั้น
“นี่เจ้ากำลังจะบอกว่าเด็กผู้หญิงเป็นผู้สืบทอดไม่ได้อย่างนั้นรึ”
การทะเลาะวิวาทกำลังจะบานปลายออกไปเมื่อพยาบาลเดินเข้ามาในห้องพอดี
ฉันรู้สึกได้ว่าเลียมบีบมือฉันแน่นขึ้นขณะที่เธอเดินเข้ามาพร้อมกับผลตรวจในมือ
สีหน้าของเธอดูไม่ออกเลยว่ารู้สึกอย่างไรขณะที่เธอเดินเข้ามาหาเรา ความตึงเครียดข้างในใจแทบจะฆ่าฉันให้ตายขณะที่ฉันรอฟังคำประกาศจากเธอ ท้องไส้ของฉันปั่นป่วนไปหมด และในชั่วพริบตา ฉันรู้สึกคลื่นไส้ขึ้นมาอีกระลอกทันทีที่เธอเอ่ยขึ้นว่า
“อัลฟ่าเลียม ท่านลูน่าแอสเตลล่า ขอแสดงความยินดีล่วงหน้าสำหรับอีกสามเดือนข้างหน้านะคะ! ท่านลูน่าตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้วค่ะ เราตรวจซ้ำอีกสองครั้งเพื่อให้แน่ใจ ดิฉันรับรองได้เลยค่ะท่านอัลฟ่า ว่าท่านลูน่าตั้งครรภ์จริงๆ”
ทั้งห้องพลันอบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขอีกครั้ง คราวนี้เสียงโห่ร้องดังมากจนดึงดูดความสนใจของผู้ที่เดินผ่านไปมา
บางคนถึงกับวิ่งไปรอบๆ พลางตะโกนและกรีดร้อง “ขอบคุณเทพีจันทรา! ในที่สุดท่านลูน่าก็ทรงพระครรภ์!!”
ดูเหมือนว่าทั้งโรงพยาบาลจะฮือฮากับข่านี้ไปทั่ว
ฉันตกตะลึงเมื่ออัลฟ่าเลียมลุกขึ้น อุ้มฉันขึ้นจากเตียงแล้วหมุนตัวกลางอากาศ ความตื่นเต้นบนใบหน้าของเขามากพอที่จะทำให้ฉันยิ้มกว้างออกมาได้ แต่ฉันทำได้เพียงฝืนยิ้มท่ามกลางความสุขทั้งหมด
“ฉันกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว! ขอบคุณเทพีจันทรา!”
ตอนที่เรากลับจากโรงพยาบาลก็เป็นเวลาหกโมงเย็นแล้ว อัลฟ่าเลียมรีบกลับไปจัดการประชุมด่วนที่เขาถูกเรียกตัวออกมาก่อนหน้านี้ให้เสร็จ
เหล่าสาวใช้ต่างก็กลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันปฏิเสธอย่างสุภาพต่อสาวใช้สามคนที่อาสาจะพาฉันไปส่งที่ห้อง แต่ทันทีที่พวกเธอจากไป สีหน้าเย็นชาก็เข้ามาแทนที่ความสงบนิ่งบนใบหน้าของฉัน
ฉันหันหลังกลับแล้วเดินตรงขึ้นบันได ผ่านห้องของฉันและห้องของสามี มุ่งหน้าไปยังห้องของเขา
ลมหายใจของฉันไม่สม่ำเสมอ อาจเป็นเพราะทั้งหมดที่ฉันรู้สึกได้ในตอนนั้นคือความโกรธแค้นและความอัดอั้นตันใจที่เดือดพล่าน
ทันทีที่ฉันเปิดประตูเข้าไปในห้องของเบต้า ฉันก็ขว้างเอกสารใส่เขาที่อยู่บนเตียง ด้วยสีหน้ารังเกียจเต็มทนก่อนจะพ่นคำพูดใส่หน้าเขาว่า
“ยินดีด้วยนะ เบต้าไรอัน ฉันท้องแล้ว ในที่สุดคุณก็จะได้เป็นพ่อคนเสียที... ท่านอา”
